วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

วันครู




ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 16 มกราคมของทุกๆ ปี เป็น วันครู และการจัดงานวันครู ได้มีขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 และให้ดำเนินเรื่อยมาทุกปี นับตั้งแต่บัดนั้นมา โดยจัดให้มี วันครู ขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ



ความหมาย
ครู หมายถึง ผู้อบรมสั่งสอน; ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศชาติ


ความสำคัญของครู


ในชีวิตของคนเราถือว่า บิดามารดา เป็นผู้มีพระคุณอันสูงสุด เพราะท่านเป็นผู้ให้ชีวิต ให้ความรัก ให้ความเมตตา มีความห่วงใย และเสียสละเพื่อลูก นอกจาก บิดามารดา แล้ว ก็มีครูเป็นผู้มีพระคุณคล้าย บิดามารดา คือ เป็นผู้อบรมสั่งสอนถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ รวมทั้งให้ความรัก ความเมตตาต่อศิษย์ทุกคน นับได้ว่าครูเป็นผู้เสียสละที่ไม่แพ้บุพการี

ครูจึงนับเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมาก ในการให้การศึกษาเรียนรู้ ทั้งในด้านวิชาการ และประสบการณ์ ตลอดเป็นผู้มีความเสียสละ ดูแลเอาใจใส่ สั่งสอนอบรมให้เด็กได้พบกับแสงสว่างแห่งปัญญา อันเป็นหนทางแห่งการประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเอง รวมทั้งนำพาสังคมประเทศชาติ ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ฉะนั้นวันที่ 6 ตุลาคม จึงได้เป็นวันครูสากล เพื่อคนที่เป็นครูทั่วโลกที่เสียสละนำพาเราทุก ๆคน ไปถึงฝั่งฝันนั่นเอง



ความเป็นมา
วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษา ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู ด้วยเหตุนี้ในทุก ๆ ปี คุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามปัญหาข้อข้องใจต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัยสถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า“ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บันดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณทั้งหลาย เพราะเหตุว่าสำหรับคนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษ วันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง” จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความคิดเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่น ๆ ที่ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกันประชาชน ในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ ให้วันที่ ๑๖ มกราคมของทุกปีเป็น “วันครู” โดยเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๘ เป็นวันครูและให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้


การจัดงานวันครู
การจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน งานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญคือ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ


การจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรม ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลา ในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงานวันครู จะมีกิจกรรม ๓ ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้ 1. กิจกรรมทางศาสนา 2. พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตน การกล่าวคำระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ 3. กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู ส่วนมากเป็นการแข่งขันกีฬาหรือการจัดงานรื่นเริงในตอนเย็น

ปัจจุบันการจัดงานวันครู ได้มีการกำหนดให้จัดพร้อมกันทั่งประเทศ สำหรับในส่วนกลางจัดที่หอประชุมคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการจัดงานวันครู ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ประกอบด้วยบุคคลหลายอาชีพร่วมกันเป็นผู้จัด สำหรับส่วนภูมิภาคมอบให้จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ โดยตั้งคณะกรรมการจัดงานวันครูขึ้นเช่นเดียวกับส่วนกลางจะจัดรวมกันที่จังหวัดหรือแต่ละอำเภอก็ได้

รูปแบบการจัดงานในส่วนกลาง (หอประชุมคุรุสภา) พิธีจะเริ่มตั้งแต่เช้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการจัดงานวันครู พร้อมด้วยครูอาจารย์และประชาชนร่วมกันใส่บาตรพระสงฆ์ จำนวน ๑,๐๐๐ รูป หลังจากนั้นทุกคนที่มาร่วมงานจะเข้าร่วมพิธีในหอประชุมคุรุสภา นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นประธานในงาน ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ นายกรัฐมนตรีบูชาพระรัตนตรัย ประธานสงฆ์ให้ศีล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรี เสร็จแล้วพิธีบูชาบูรพาจารย์โดยครูอาวุโสนอกประจำการจะเป็นผู้กล่าวนำพิธีสวดคำฉันท์รำลึกถึงประคุณบูรพาจารย์



มารยาทและวินัยตามระเบียบประเพณีของครู
1. เลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ

2. ยึดมั่นในศาสนาที่ตนนับถือ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาอื่น
3. ตั้งใจสั่งสอนศิษย์และปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เกิดผลดีด้วยความเอาใจใส่ อุทิศเวลาของตน ให้แก่ศิษย์ จะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่การงานไม่ได้
4. รักษาชื่อเสียงของตนมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ห้ามประพฤติการใด ๆ อันอาจทำให้เสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียงของครู
5. ถือปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมอันดีงามของสถานศึกษา และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่การงานโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแบบแผนของสถานศึกษา
6. ถ่ายทอดวิชาความรู้โดยไม่บิดเบือนและปิดบังอำพราง ไม่นำหรือยอมให้นำผลงานทางวิชาการของตนไปใช้ในทางทุจริตหรือเป็นภัยต่อมนุษย์ชาติ
7. ให้เกียรติแก่ผู้อื่นทางวิชาการ โดยไม่นำผลงานของผู้ใดมาแอบอ้างเป็นผลงานของตน และไม่เบียดบังใช้แรงงานหรือนำผลงานของผู้อื่นไป เพื่อประโยชน์ส่วนตน
8. ประพฤติตนอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความเที่ยงธรรมไม่แสวงหาประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ
9. สุภาพเรียบร้อยประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ รักษาความลับของศิษย์ ของผู้ร่วมงานและของสถานศึกษา
10. รักษาความสามัคคีระหว่างครูและช่วยเหลือกันในหน้าที่การงาน

คำปฏิญาณตนของครู
ข้อ 1. ข้าจะบำเพ็ญตนให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นครู

ข้อ 2. ข้อจะตั้งใจฝึกสอนศิษย์ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ
ข้อ 3. ข้าจะรักษาชื่อเสียงของคณะครูและบำเพ็ญตนให้เป็น

บทสวดเคารพครูอาจารย์
(สวดนำ) ปาเจราจริยา โหนติ (รับพร้อมกัน) คุณุตฺตรานุสาสกา
ปญญาวุฑฺฒิกเร เต เต ทินฺโนวาเท นมามิหํ
ข้าขอประณตน้อมสักการ บุรพคณาจารย์
ผู้ก่อประโยชน์ศึกษา
ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา
แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
ข้าขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์
ด้วยใจนิยมบูชา
ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา
ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน
อยู่ในศีลธรรมอันดี
ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี
แก่ชาติและประเทศไทย เทอญฯ


คาถา ปาเจราจริยา โหนฺติ คุณุตฺตรานุสาสกา (วสันตดิลกฉันท์)
ข้าขอประนมกระพุ่ม

อภิวาทนาการ
กราบคุณอดุลคุรุประทาน
หิตเทิดทวีสรร
สิ่งสมอุดมคติประพฤติ
นรยึดประครองธรรม์
ครูชี้วิถีทุษอนันต์
อนุสาสน์ประภาษสอน
ให้เรืองและเปรื่องปริวิชาน
นะตระการสถาพร
ท่านแจ้งแสดงนิติบวร
ดนุยลยุบลสาร
โอบเอื้อและเจือคุณวิจิตร
ทะนุศิษย์นิรันดร์กาล
ไปเปื่อก็เพื่อดรุณชาญ
ลุฉลาดประสาทสรรพ์
บาปบุญก็สุนทรแถลง
ธุระแจงประจักษ์ครัน
เพื่อศิษย์สฤษฎ์คตจรัล
มนเทิดผดุงธรรม
ปวงข้าประดานิกรศิษ
(ษ) ยะคิดระลึกคำ
ด้วยสัตย์สะพัดกมลนำ
อนุสรณ์เผดียงคุณ
โปรดอวยพรสุพิธพรอเนก
อดิเรกเพราะแรงบุญ
ส่งเสริมเฉลิมพหุลสุน- ทรศิษย์เสมอเทอญฯ

รายชื่อประเทศที่มีวันครู
ประเทศที่มี วันครู ที่ไม่ใช่วันหยุด
- อินเดีย วันครูตรงกับวันที่ 5 กันยายน
- มาเลเซีย วันครูตรงกับวันที่ 16 พฤษภาคม
- ตุรกี วันครูตรงกับวันที่ 24 พฤศจิกายน

ประเทศที่มี วันครู เป็นวันหยุด
- แอลเบเนีย วันครูตรงกับวันที่ 7 มีนาคม
- จีน วันครูตรงกับวันที่ 10 กันยายน
- สาธารณรัฐเช็ก วันครูตรงกับวันที่ 28 มีนาคม
- อิหร่าน วันครูตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม
- ละตินอเมริกา วันครูตรงกับวันที่ 11 กันยายน
- โปแลนด์ วันครูตรงกับวันที่ 14 ตุลาคม
- รัสเซีย วันครูตรงกับวันที่ 5 ตุลาคม
- สิงคโปร์ วันครูตรงกับวันที่ 1 กันยายน
- สโลวีเนีย วันครูตรงกับวันที่ 28 มีนาคม
- เกาหลีใต้ วันครูตรงกับวันที่ 15 พฤษภาคม
- ไต้หวัน วันครูตรงกับวันที่ 28 กันยายน
- ไทย วันครูตรงกับวันที่ 16 มกราคม
- สหรัฐอเมริกา วันอังคารในสัปดาห์แรกที่เต็ม 7 วันในเดือนพฤษภาคม
- เวียดนาม วันครูตรงกับวันที่ 20 พฤศจิกายน

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

เค้กญี่ปุ่น (Japanese Cakes) น่าทานมากๆ ค่ะ

มาดูวิธีทำเค้กญี่ปุ่นแบบพื้น ๆ กันก่อน
ส่วนผสม
1.แป้งเค้าตราริบบิ้น ,250 กรัม 2 1/2 ถ้วย
2.น้ำตาลทรายป่น
3.ไข่ไก่ 500 กรัม
4.เกลือ 1 ช้อนชา
5.โอวาเลท 2 ช้อนโต๊ะ
6.นมข้นจืด 1/2 ถ้วย
7.เนยละลาย 1/2 ถ้วย
8.ผงฟู 1/2 ช้อนชา


วิธีทำ
- ร่อนแป้ง ผงฟู
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันยกเว้น เนย
- ตีที่ตีด้วยตะกร้อ ประมาณ 15 นาที เติมเนยละลายลงไปผสมให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ขนาดสองปอนด์ ได้ 3 อันที่รองไว้ด้วยกระดาษไข
- อบ 350 องศาฟาเรนท์ไฮ 30 นาที
*ใส่วนิลา 1 ช้อน


มาดูเค้กญี่ปุ่น เพื่อยั่วน้ำลายกันค่ะ ก็เลยเอามายั่วน้ำลายกันให้ทั่วถึงในนี้ มาดูกันเลยดีกว่า


จากภาพดูแล้วน่าจะชื่อ Berry Tart ค่ะ มีหลากหลายเบอร์รี่ทีเดียว


เค้กในถ้วยหลายแบบทีเดียว เหมือนจะเป็น cup cake แต่ cup ใหญ่จัง ที่ได้มานี้ ชื่อก็ไม่บอกค่ะ อิอิ ดูไปอย่างเดียวแล้วกันนะค่ะ


มาซูมดูใกล้ๆ ค่ะ ชอบญี่ปุ่นตรงที่ มีความละเอียดอ่อน ละเมียดละมัยในเรื่องต่างๆ ใส่ใจรายละเอียดการใช้ชีวิตประจำวัน

1

ภาพนี้ชื่อ Some Tachibana ดูๆ เหมือนเค้กส้มเลยค่ะ


ภาพนี้ Bill ค่ะ เหมือนว่าเป็นกรวยโคนปักลงในเค้ก สีสันได้ใจมากๆ


Cheese Tart ค่ะ ดูเหมือนว่าจะเป็นยี่ห้อ Giotto


Fruit Tart ค่ะ


นี่ก็เป็น Berry Tart อีกแบบค่ะ



Meringe Chantilly

(ไป search ดูใน Google เค้าเขียน Meringue แบบนี้ค่ะ เผื่อเพื่อนๆจะค้นหาข้อมูล meringue จะได้เป็นตัวเลือก keyword)


อันนี้ Giotto เลย แพงกว่าใครเพื่อน แต่ดูน่าลองจังค่ะ


Nuts Chocolate ไปค้นข้อมูลมา เส้นๆ ด้านบนนั้นก็เป็นเส้นช็อคโกแล็ตค่ะ


นี่ก็ Fruit Tart อีกแบบค่ะ




ความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ


Berry Tart แบบนี้ ชนะเลิศไปเลย


รบกวนผู้รู้ภาษาญี่ปุ่นด้วยค่า




เป็น ราสเบอร์รี่รึป่าวนะ


ชอบตรงที่ดูเป็นเนื้อเค้กสีเขียวอ่อนๆ


ชอบสตอเบอร์รี่จังค่ะ

พอหอมปากหอมคอนะคะ มีอะไรน่าน้ำลายไหล จะนำมาฝากอีกค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

ตลาดน้ำยามเย็น




ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม


อัมพวา


ในอดีตเมืองอัมพวาถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม มีตลาดน้ำขนาดใหญ่และชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรม แต่ผลกระทบของการพัฒนาการคมนาคมทางบก ทำให้ความเป็นศูนย์กลางฯ ของอัมพวาต้องสูญเสียไป ตลาดน้ำค่อยๆลดความสำคัญและสูญหายไปในที่สุด ทิ้งไว้แต่ร่องรอยของความเจริญในอดีตซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นชัดเจนในทุกวันนี้ทางเทศบาลตำบลอัมพวา โดยความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในท้องถิ่น ได้ฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ ซึ่งในปัจจุบันจะหาดูได้ยาก ให้สืบทอดตลอดไป โดยใช้ชื่อว่า "ตลาดน้ำยามเย็น"


สิ่งที่น่าสนใจตลาดน้ำยามเย็นจะมีทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.00 -22.00 น.วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น.ตลาดน้ำโดยทั่วไปมักจะจัดขึ้นในเวลากลางวัน แต่ตลาดน้ำยามเย็น ที่อัมพวาแห่งนี้ จะจัดขึ้นในช่วงงเวลาเย็นเรื่อยไปจนถึงเวลาพลบค่ำ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดในลักษณะเช่นนี้ ในตอนเย็นชาวบ้านจะเริ่มทยอยพายเรือนำสินค้าหลากหลายนานาชนิด อาทิ อาหาร ผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ มาขายให้กับนักท่องเที่ยว หรือคนในท้องถิ่นที่สัญจรไปมาที่ตลาดอัมพวา ทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติของชีวิตของชุมชนริมน้ำ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถที่จะหาซื้ออาหารมานั่งรับประทาน บริเวณริมคลองอัมพวาติดกับตลาดน้ำ ซึ่งได้มีการจัดสถานที่ไว้ ทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

คำบอกรักภาษาต่างๆ

ภาษาพม่า เรียกว่า จิต พา เด (chit pa de)
เขมร เรียกว่า บอง สรัน โอน (Bon sro Iahn oon)
เวียดนาม เรียกว่า ตอย ยิ่ว เอ๋ม (Toi yue em)
มาเลเซีย เรียกว่า ซายา จินตามู (Saya cintamu)
อินโดนีเซีย เรียกว่า ซายา จินตา ปาดามู (Saya cinta padamu)
ฟิลิปปินส์ เรียกว่า มาฮัล กะ ตา (Mahal ka ta)
ญี่ปุ่น เรียกว่า คิมิ โอ ไอ ชิเตรุ (Kimi o ai eru)
เกาหลี เรียกว่า โน รุย สะรัง เฮ (No-rui sarang hae)
เยอรมัน เรียกว่า อิคช์ ลิบ ดิกช์ (Ich Liebe Dich)
ฝรั่งเศส เรียกว่า เฌอแตม (Je t'aime)
ฮอลแลนด์ (ดัชต์) เรียกว่า อิค เฮา ฟาวน์ เยา (Ik hou van jou)
สวีเดน เรียกว่า ย็อก แอลสการ์ เด (Jag a Lskar dig)
อิตาลี เรียกว่า ติ อโม (Ti amo)
สเปน เรียกว่า เตอ เควียโร (Te quiero)
รัสเซีย เรียกว่า ยาวาส ลุยบลิอู (Ya vas Liubliu)
โปรตุเกส เรียกว่า อโม-เท (Amo-te)
จีนกลาง เรียกว่า หว่อ อ้าย หนี่ (Wo ai ni)
จีนแคะ เรียกว่า ไหง อ้อย หงี (Ngai oi ngi)
ฮกเกี้ยน เรียกว่า อั๊ว ไอ้ ลู่ (Auo ai Lu)
ตุรกี เรียกว่า เซนี เซวีโยรัม (Seni Seviyorum)

ดื่มนมไขมันต่ำแก้หิวได้



เนื่องจากทางคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยมินนีโซทา ที่พวกเขาได้ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างวัยรุ่น จำนวน 2,294 ซึ่งใช้ระยะเวลาถึงห้าปี จนได้ผลการศึกษาที่พบว่า วัยรุ่นที่ดื่มนมสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีกว่าวัยรุ่นที่ไม่ดื่มนม

ซึ่งการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าผู้ใหญ่ที่ดื่มนมไขมันมันต่ำสามารถลดน้ำหนักได้ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ดื่มนม และทุกๆคนควรหามาอาหารที่จะรับประทานหรือดื่มนั้นเป็นอาหารที่มีลักษณะคล้ายซุปข้น เช่น นมไขมันต่ำ นมถั่วเหลือง น้ำผลไม้รวมกากหรืออาหารที่เคี้ยวนานๆ เพราะอาหารจำพวกนี้มีส่วนช่วยทำให้หูรูดของกะเพาะอาหารสามารถปิดได้นานขึ้น ซึ่งหมายถึงทำให้อิ่มได้นาน

และขอแนะนำว่าควรจะเลิกดื่มน้ำที่มีน้ำตาล เช่นน้ำอัดลม น้ำหวาน เพราะจะทำให้ผ่านหูรูดขาออกไปอย่างรวดเร็วซึ่งจะทำให้หิวเร็วขึ้นเพราะฉะนั้นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับการควบคุมน้ำหนักคือ นมไขมันต่ำ
Château de Chambord






The royal Château de Chambord at Chambord, Loir-et-Cher, France is one of the most recognizable châteaux in the world because of its very distinct French Renaissance architecture that blends traditional French medieval forms with classical Italian structures.[nb 1]


The building, which was never completed, was constructed by King François I in part to be near to his mistress the Comtesse de Thoury, Claude Rohan, wife of Julien de Clermont, a member of a very important family of France, whose domaine, the château de Muides, was adjacent.[nb 2] Her arms figure in the carved decor of the château.






Chambord is the largest château in the Loire Valley; it was built to serve as a hunting lodge for François I, who maintained his royal residences at Château de Blois and Château d'Amboise. The original design of the Château de Chambord is attributed, though with several doubts, to Domenico da Cortona. Some authors, though, claim that the French Renaissance architect Philibert Delorme had a considerable role in the château's design,[2] and others have suggested that Leonardo da Vinci may have designed it.


Chambord was altered considerably during the twenty years of its construction, (1519–1547), during which it was overseen on-site by Pierre Nepveu. With the château nearing completion, François showed off his enormous symbol of wealth and power by hosting his old archnemesis, Emperor Charles V at Chambord.

ไอศกรีมดอกไม้ต้านอนุมูลอิสระ





ดอกไม้ นอกจากจะนำมาปรุงแต่งขึ้นโต๊ะอาหาร เป็นเมนูเพื่อสุขภาพระดับภัตตาคารแล้ว ล่าสุดราชภัฏบ้านสมเด็จฯ วิจัยไอศกรีมดอกไม้ต้านอนุมูลอิสระ


ผลิตภัณฑ์ ไอศกรีมดอกไม้ต้านอนุมูลอิสระ ต่อยอดมาจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำดอกไม้ ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) ที่วิจัยร่วมกับบริษัทอุตสาหกรรมขนมไทย จำกัด โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยมอบทุนวิจัย 1 แสนบาท



ผล วิจัยพบดอกไม้ 5 ชนิดที่โดดเด่นคือ ดาหลา ดอกเข็ม กุหลาบมอญ ดอกบัวและอัญชัน


โดย


ดอกดาหลามีสารต้านอนุมูลอิสระมากสุดถึง 84.72%


ตามมาด้วยดอกเข็ม 83.97%


กุหลาบมอญ 82.67%


เกสรดอกบัว 73.23%


และอัญชัน 26.33%
“งาน วิจัยระดับท้องถิ่นช่วยสร้างองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการ อีกทั้งสามารถพัฒนาเป็นนวัตกรรมเผยแพร่สู่สาธารณะ ทีมวิจัยยังได้วิจัยร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยแห่งอื่น โดยใช้เครื่องไม้เครื่องมือในการวิจัยร่วมกัน”ดร.อัจฉรา ในฐานะหัวหน้าทีมวิจัย กล่าว


ไอศกรีม ดอกไม้ทั้ง 5 รสชาติ ได้แก่ ดาหลาไวน์ใช้สารสกัดจากดอกดาหลา เข็มสตรอเบอรี่เชอเบทใช้สารสกัดจากดอกเข็ม กุหลาบนมใช้สารสกัดจากดอกกุหลาบมอญ บัวนมใช้สารสกัดจากเกสรดอกบัว และอัญชันมะพร้าวอ่อนใช้สารสกัดจากดอกอัญชัน


สำหรับไอศกรีมดอกไม้ไทยจะเป็นไอศกรีมนวัตกรรมวางจำหน่ายที่ร้านกำปั่น ตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม

บร็อกโคลี มีสารคล้ายยารักษาโรคอัลไชเมอร์



คนที่เป็นโรคความจำอักเสบ ชอบลืมโน่นลืมนี่ประจำ ควรหันมารับประทานบร็อกโคลีทุกวัน เพราะงานวิจัยของมหาวิทยาลัยคิงส์ คอลเลจ ลอนดอน ระบุว่ามีผักและผลไม้ 5 ชนิด มีสารประกอบที่ทำหน้าที่เหมือนกับยาที่ใช้รักษาโรคอัลไซเมอร์ได้คือ บร็อกโคลี มันฝรั่ง ส้ม แอปเปิ้ล และหัวไชเท้า โดยเฉพาะบร็อกโคลีมีสารดังกล่าวเยอะที่สุด
ดังนั้นควรหันมารับประทานบร็อกโคลีแก้โรคความจำอักเสบกันเถอะนะ

The most expensive beef in the world


The most expensive beef in the world .. meat Ramat

Tsusaka (Mutsuzaka beef).


เนื้อวัวที่แพงที่สุดในโลกไม่ใช่เนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยข้าวโพดจากรัฐวิสคอนซินในสหรัฐอเมริกา แต่เป็นเนื้อวัวพิเศษสุดจากเมืองมัทสึซากะในประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะเนื้อตรงที่มีไขมันแทรกเป็นริ้วสีขาวนวลเหมือนเนย สลับสีชมพูสดของส่วนที่เป็นเนื้อแท้ เปรียบได้ดังหินอ่อนชั้นดีจากรัสเซีย ความอร่อยของเนื้อมัทสึซากะอยู่ที่ความนุ่มและมีกลิ่นหอมโดยเฉพาะเมื่อนำมาทอดบนกระทะเหล็กแผ่นขัดเงา ร้อนจัด ที่เรียกว่า เทปันยากิ หรือเอามาฝานบางๆเป็นแผ่นใหญ่โดยมิให้ขาดรุ่งริ่ง แล้วเอามาทำสุกียากี้หรือชาบุ-ชาบุ ใช้ตะเกียบคีบจุ่มลงในน้ำแกงจืดร้อนจัดเพียงครึ่งนาที ก็เอามาจิ้มลงในซอสงาบด หรือปอนสุแล้วใส่ปาก จะรู้สึกอร่อยจนบอกไม่ถูก เจ้าของวัวจะดูแลวัวอย่างพิถีพิถันถึง 3 ปี (วัวที่เลี้ยงเพื่อขายปกติจะมีอายุไม่เกิน 2 ปี)โดยขุนให้อ้วนที่สุด และเลี้ยงในคอกไม้ตอกสลักไม้ประมาณ 2 ต.ร.ม. พอดีตัววัว


Pipe is made of plastic. Because the metal is afraid to scratch marks and the owner of the cattle pens are all expect to have raised cattle for winning Champions.It will sell the cattle prices are tens of thousands. Dollars ever.