วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

10 อันดับรถไฟที่เร็วที่สุดในโลก

ทุกวันนี้มนุษย์ได้คิดค้นสิ่งต่างๆ มากมายเพื่อประโยชน์และการนำไปใช้ มีการพัฒนาให้ดีขึ้น ซับซ้อนขึ้น ประวัติการขนส่งทางรถไฟนั้นยาวนานมาก ตั้งแต่การใช้บรรทุกไม้หรือหิน และได้พัฒนาล้อใหม่และเครื่องยนต์ให้เร็วขึ้น ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติการขนส่งทางรถไฟทั้งหมด ลองมาดูรถไฟที่มีความเร็วมากที่สุดในโลกและคุณจะได้เห็นถึงความแตกต่างว่ามนุษย์ได้พัฒนามาได้ไกลขนาดไหนจากเมื่อ 500 ปีมาแล้ว

อันดับที่สิบ HSL 1, เบลเยี่ยม
ในประเทศเบลเยี่ยมให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคม 1997 ความเร็วสูงสุดประมาณ 299 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อันดับที่เก้า ETR-500, อิตาลี
ETR ย่อมาจาก Elettero Treno Rapido บริษัทที่ดำเนินการอยู่ในประเทศอิตาลีตั้งแต่ 1993 ที่ความเร็วสูงสุดของรถไฟขบวนนี้ประมาณ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางเพียง 60 นาทีจากตัวเมืองโบโลญญาไปยังมิลาน

อันดับที่แปด Eurostar, อังกฤษ
รถไปที่มีฐานอยู่ที่อังกฤษ ขนส่งผู้โดยสารประมาณ 900 คนต่อวัน เชื่อมต่ออังกฤษกับฝรั่งเศสโดยผ่านอุโมงค์ ความเร็วสูงสุดประมาณ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อันดับที่เจ็ด AVE Talgo-350, สเปน
สัมผัสกับความเร็วสูงถึง 329 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถไฟนี้เชื่อมต่อ มาดริด - บาร์เซโลนา และ มาดริด - บายาโดลิด ในประเทศสเปน

อันดับที่หก THSR 700T, ไต้หวัน
รถไฟของไต้หวันมีความเร็วสูงสุดประมาณ 335.50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถรับผู้โดยสารได้ 989 คน

อันดับที่ห้า KTX 2, เกาหลี
โรงงานที่ผลิตรถไฟนี้คือ Hyundai Rotem แต่เป็นรถไฟที่ให้บริการโดย KOrail ตั้งแต่ปี 2009 ถึงแม้จะมีความเร็วสูงสุด 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เพื่อความปลอดภัยปกติจึงวิ่งที่ความเร็ว 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อันดับที่สี่ TGV Reseau, ฝรั่งเศส
มีความเร็วสูงสุด 380 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถรับผู้โดยสารได้ 377 คน

อันดับที่สาม Shinkansen, ญี่ปุ่น
รถไฟของญี่ปุ่นมีความเร็วสูงสุด 442.89 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้บริการมาตั้งแต่ปี 1964

อันดับที่สอง TR-09, เยอรมัน
รถไฟของเยอรมันที่ใช้ระบบ magnetic levitation สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 449.81 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อันดับที่หนึ่ง CRH380A, จีน
รถไฟที่เร็วที่สุดในโลกสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 487.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถไฟของจีนผลิตโดย CSR Qingdao Sifang Locomotive และ Rolling Stock Company สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 494 คน เส้นทางจากเซี่ยงไฮ้ไปยังหนานจิง และ เซี่ยงไฮ้ - หางโจว

10 โรงแรมริมน้ำดีที่สุดในโลก

10. แกรนด์ เบย์ โฮเต็ล อิสลา นาวิดัด (Grand Bay Hotel Isla Navidad) เม็กซิโก

โรงแรม 4.5 ดาวแห่งนี้ตั้งอยู่ที่อิสลา นาวิดัด ในเมืองมันซานีโญ เนื่องจากตัวอาคารสไตล์สแปนิชของโรงแรมตั้งลดหลั่นกันบนเนินเขาริมชายฝั่ง มหาสมุทรแปซิฟิกจึงให้มุมมองที่สวยงามของท้องทะเล เวิ้งน้ำ และภูเขาในแบบพาโนรามา บริเวณด้านหน้าโรงแรมยังมีท่าจอดเรือยอช์ทส่วนตัวไว้คอยบริการแขกผู้มาเยือน ส่วนกิจกรรมเด็ดห้ามพลาดประกอบด้วย การขี่ม้า ตกปลาน้ำลึก ตีกอล์ฟในสนามกอล์ฟ 27 หลุม และการดำน้ำลึก เป็นต้น * ห้องพักภายในโรงแรมแห่งนี้มีราคาเริ่มต้นที่ $151 (ราว 4.6 พันบาท) ต่อห้องต่อคืน (ทั้งนี้ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)

9. ฮิลตัน โอ๊คแลนด์ (Hilton Auckland) นิวซีแลนด์

โรงแรมแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการออก แบบมาจากเรือสำราญ ทั้งยังรายล้อมด้วยน้ำเพราะตัวอาคารยื่นออกไปในอ่าวไวเตมาตา แขกผู้มาเยือนจึงเข้าพักและชมวิวท่ามกลางบรรยากาศของเรือสำราญได้อย่างสบาย ใจโดยไม่ต้องกลัวเมาคลื่น แถมภายในห้องพักยังได้รับการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายห้องพักบนเรือ โดยมีผนังกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน จุดเด่นอีกอย่างของโรงแรมแห่งนี้ คือ สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ที่ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกใส ผู้ใช้บริการจึงสามารถชมวิวสวยๆ ของอ่าวได้ในขณะว่ายน้ำ * ห้องพักภายในโรงแรมแห่งนี้มีราคาเริ่มต้นที่ $274 (กว่า 8.3 พันบาท) ต่อห้องต่อคืน (ทั้งนี้ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)

8. มารีน่า เบย์ แซนด์ส โฮเต็ล (Marina Bay Sands Hotel) สิงคโปร์

โรงแรมหรู 5 ดาวแห่งนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบว่ายน้ำและชมวิวในบรรยากาศที่แตกต่าง เพราะบริเวณ “เดอะ แซนด์ส สกาย ปาร์ค” หรือดาดฟ้ารูปทรงคล้ายเรือบนชั้น 55 เป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ที่ได้ชื่อว่าเป็น “สระว่ายน้ำลอยฟ้าใหญ่สุดในโลก” โดยมีความยาวมากถึง 150 เมตร จึงให้มุมมองที่สวยงามของตึกระฟ้า มันดาเลย์ เบย์ และท้องทะเลในแบบพาโนรามา * ห้องพักภายในโรงแรมแห่งนี้มีราคาเริ่มต้นที่ $281 (ราว 8.6 พันบาท) ต่อห้องต่อคืน (ทั้งนี้ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)

7. เลอ เมอริเดียน โบรา โบรา (Le Meridien Bora Bora) เฟรนช์ โพลินีเซีย

“เลอ เมอริเดียน โบรา โบรา” เป็นรีสอร์ท 4 ดาวที่ตั้งอยู่บนเกาะ “โบรา โบรา” อันเลื่องชื่อ ภายในมีบ้านพักจำนวน 99 หลังซึ่งแขกผู้เข้าพักสามารถชมชีวิตสัตว์โลกใต้ทะเลผ่านทางพื้นกระจก และถ้าชอบกิจกรรมสุดท้าทายก็ต้องลองพายเรือแคนูสไตล์โพลินีเซียนขนานแท้และ ดั้งเดิม หรือไม่ก็เล่นเจ็ทสกี ล่องเรือใบ ให้อาหารปลาฉลาม และดำน้ำ เป็นต้น

6. แอตแลนติส รอยัล ทาวเวอร์ส (Atlantis Royal Towers) เครือรัฐบาฮามาส

โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 171 เอเคอร์ (433 ไร่) บนเกาะพาราไดซ์ ไอส์แลนด์ ของประเทศบาฮามาส บรรยากาศโดยรอบโรงแรมได้รับการออกแบบและตกแต่งภายในแนวคิด “แอตแลนติสที่สาบสูญ” นอกจากที่พัก, สวนน้ำ, อควาเรียม, ดอลฟิน เคย์ (สำหรับโชว์ปลาโลมา) ตลอดจนกิจกรรมเพื่อความสนุกสนานและความบันเทิงต่างๆ สำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัวแล้ว ภายในโรงแรมแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของคาสิโนใหญ่สุดในแคริบเบียนอีกด้วย * ห้องพักภายในโรงแรมแห่งนี้มีราคาเริ่มต้นที่ $562 (กว่า 1.7 หมื่นบาท) ต่อห้องต่อคืน (ทั้งนี้ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)

5. เดอะ พาเลซ ออฟ เดอะ ลอสต์ ซิตี้ (The Palace Of The Lost City) ซันซิตี้ คอมเพล็กซ์ื สาธารณรัฐแอฟริกาใต้

โรงแรมหรู 5 ดาวแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่มากถึง 25 เฮคเตอร์ (156 ไร่) ท่ามกลางสวนพฤกษศาสตร์และขุนเขา ตัวอาคารได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากพระราชวังในตำนานของชาวแอฟริกา โบราณจึงหรูหราและอลังการสุดๆ ส่วนบรรยากาศโดยรอบถูกออกแบบในธีม “นครที่โลกลืม” หรือ “Lost City” ซึ่งประกอบด้วย ทะเลเทียม, เครื่องเล่นและสวนน้ำ, สะพานแห่งกาลเวลา (จะสั่นราวกับเกิดแผ่นดินไหวทุกๆ 1 ช.ม.), สวนพฤกษศาสตร์, ลำธาร และน้ำตก, สะพานแกว่ง, สนามกอล์ฟ (มีจระเข้แห่งลุ่มน้ำไนล์ตัวเป็นๆ 20 ตัวอาศัยอยู่บริเวณหลุม 13), บาร์, ภัตตาคาร ตลอดจนร้านเพชรและร้านจำหน่ายของที่ระลึก เป็นต้น * ห้องพักภายในโรงแรมแห่งนี้มีราคาเริ่มต้นที่ $586 (ประมาณ 1.8 หมื่นบาท) ต่อห้องต่อคืน (ทั้งนี้ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)

4. มันดาเลย์ เบย์ รีสอร์ท (Mandalay Bay Resort) ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

โรงแรม (และคาสิโน) 4 ดาว “มันดาเลย์ เบย์ รีสอร์ท” ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เกาะสวาทหาดสวรรค์” ถึงแม้ว่าจะตั้งอยู่บนเนื้อที่ 11 เอเคอร์ (28 ไร่) กลาง ทะเลทรายเนวาดาก็ตาม สาเหตุที่โรงแรมแห่งนี้ได้รับสมญานามดังกล่าว เป็นเพราะบรรยากาศโดยรอบถูกตกแต่งให้มีกลิ่นอายของเกาะและชายหาด แถมยังมีทะเลเทียมและชายหาด (เทียม) อีกต่างหาก นอกจากนี้ยังมี สระว่ายน้ำมาตรฐานอีก 3 สระ, คลับและสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่ (อายุ 21 ปีขึ้นไป), อควาเรียมปลาฉลาม, เลซี่ ริเวอร์ (นั่งบนห่วงยางแล้วจะไหลตามน้ำไปเรื่อยๆ) ตลอดจนสวนและน้ำตก เป็นต้น * ห้องพักภายในโรงแรมแห่งนี้มีราคาเริ่มต้นที่ $81 (ประมาณ 2,500 บาท) ต่อห้องต่อคืน (ทั้งนี้ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)

3. แอตแลนติส เดอะ ปาล์ม (Atlantis The Palm) ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

“แอตแลนติส เดอะ ปาล์ม” เป็นโรงแรมหรู 5 ดาวที่ตั้งอยู่บนเกาะเทียมรูปต้นปาล์ม “ปาล์ม จูเมราห์” ที่นี่ไม่เพียงมีห้องพักที่หรูหราและหาดทรายส่วนตัว หากยังมีสวนน้ำ, ดอลฟิน เบย์ (สำหรับโชว์ปลาโลมา), อควาเรียมขนาดมหึมา, ศูนย์ดำน้ำ, จุดชมวิวใต้น้ำ ฯลฯ และถ้าอยากลองพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามของโลกใต้น้ำก็ต้องเข้าพัก ที่ “ลอสต์ แชมเบอร์ส สวีท” เพราะจะได้เห็นฝูงปลาฉลาม ปลากระเบน และสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ อีกราว 65,000 ชนิด แหวกว่ายอยู่ภายในอควาเรียม “แอมบาสเดอร์ ลากูน” ไม่ว่าจะอยู่ภายในห้องนอนหรือห้องน้ำก็ตาม * ห้องพักภายในโรงแรมแห่งนี้มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ $548 (ราว 1.7 หมื่นบาท) ต่อห้องต่อคืน (ทั้งนี้ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)

2. บันยันทรี ภูเก็ต (Banyan Tree Phuket) จ. ภูเก็ต ประเทศไทย

โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล อันดามัน ทั้งยังถูกรายล้อมด้วยทะเลสาบ แขกผู้มาเยือนจึงสามารถเพลิดเพลินกับหาดทราย สายลม เสียงคลื่น พร้อมสัมผัสบรรยากาศแบบสบายๆ ริมน้ำ ระหว่างพักผ่อนภายในห้องพักสุดหรูระดับ 5 ดาว หรือลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำส่วนตัว * ห้องพักภายในโรงแรมแห่งนี้มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ $750 (เกือบ 2.3 หมื่นบาท) ต่อห้องต่อคืน (ทั้งนี้ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)

1.คอนราด มัลดีฟส์ แรงกาลิ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท (Conrad Maldives Rangali Island Resort) สาธารณรัฐมัลดีฟส์

โรงแรมหรู 5 ดาว “คอนราด มัลดีฟส์ แรงกาลิ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท” มีวิลล่าหรูตั้งอยู่เหนือท้องทะเลใสแจ๋วจำนวน 50 หลัง บางหลังอยู่ห่างจากบริเวณชายฝั่งมากถึง 500 เมตร จึงให้มุมมองที่สวยงามของโลกใต้ผิวน้ำและมหาสมุทรอินเดีย แต่ถ้ายังไม่หนำใจแขกผู้มาเยือนสามารถลงไปรับประทานอาหารและทักทายฝูงปลาที่ ภัตตาคารใต้น้ำซึ่งอยู่ลึกลงไปในทะเล 16 ฟุต (เกือบ 5 เมตร) * ห้องพักภายในโรงแรมแห่งนี้มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ $900 (กว่า 2.7 หมื่นบาท) ต่อห้องต่อคืน (ทั้งนี้ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้) นอกจากวิลล่ากลางน้ำแล้ว ที่นี่ยังมีบ้านพักสุดหรูที่ตั้งอยู่ริมชายหาดให้เลือกพักด้วยเช่นกั

10 ถนนอันตรายที่สุดในโลก

ถนนหนทางถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำพาพวกเราไปท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากถนนที่ควรจะพาเราเดินทางอย่างราบรื่นกลับกลายมาเป็นอุปสรรคสุดอันตรายที่พร้อมจะคร่าชีวิตทุกคนที่เดินทางผ่านล่ะ?

.

ทีมงานจิงโจ้เป็นโล้เป็นพายข่าวขอพาทุกคนไปสัมผัส 10 ถนนที่อันตรายที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของเว็บไซต์ travelandleisure

.

พร้อมแล้วไปดูเส้นทางอันตรายพร้อม ๆ กันเลยครับ

.

10..North Yungas Road, ประเทศโบลิเวีย

image

image

ตำแหน่งที่ตั้ง: ระหว่างเมืองLa Paz และ Coroico

ความอันตราย: สุดยอดเส้นทางอันตรายจนมีชื่อเรียกขานว่า“ถนนแห่งความตาย” ถนนสุดแคบเส้นนี้วิ่งไปตามภูเขา 40 ลูก และบางจุดแคบเพียง 10 ฟุต รถยนต์แทบสวนกันไม่ได้ ด้านล่างเป็นป่าที่อยู่ลึกลงไป 1,000 ฟุตที่กลืนกินชีวิตนักขับมาแล้วหลายราย

9..Guoliang Tunnel Road,.ประเทศจีน

image

image

ตำแหน่งที่ตั้ง: ภูเขาTaihang ในประเทศจีน

ความอันตราย:ถนนที่มีชื่อแปลว่า "ไม่อดทนกับความผิดพลาด" ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1972 โดยชาวบ้านที่อาศัยในเขตภูเขา Taihang แสนไกลปืนเที่ยง ได้ช่วยกันขุดอุโมงค์ผ่านภูเขาเป็นระยะ 3/4 ไมล์เพื่อเป็นทางออกมาสู่โลกภายนอก ปัจจุบันเส้นทางนี้กว้าง 12 ฟุต หรือประมาณ 3 เมตรครึ่ง ทางโค้งในอุโมงค์กว่า 30 แห่งจะมีช่องเปิดให้เห็นวิวหน้าผาและหุบเหวลึกสุดอันตรายด้านล่างให้นักขับหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเล่น

8. Halsema.Highway, ประเทศฟิลิปปินส์

image

image

ตำแหน่งที่ตั้ง: ภูเขาบนเกาะLuzon

ความอันตราย: ความน่าสะพรึงกลัวของนักขับบนถนนเส้นนี้ ดินถล่มสุดโหด หินก้อนใหญ่ ๆ และซากหินที่ตกลงมาจากข้างบนเขาพร้อมจะคร่าชีวิตนักขับดวงซวยทุกคน แถมด้วยหมอกหนาที่ปกคลุมถนนเส้นนี้ทั้งปี ทำให้ทัศนวิสัยย่ำแย่สุดขีด เส้นทางนี้วิ่งวกวนผ่านเขาCordillera Central ขนาดมหึมาในเขตเกาะLuzon และยังมีอีกหลายพื้นที่ของเส้นทางที่ยังไม่มีการปูพื้นถนน

.

7. Karakoram.Highway,.ระหว่างประเทศปากีสถานและจีน

image

image

ตำแหน่งที่ตั้ง: เขตภูเขาKarakoram ในปากีสถาน

ความอันตราย: หนึ่งในถนนที่สูงที่สุดบนโลก วิ่งลัดเลี้ยวเคี้ยวคดไปตามภูเขาสูง16,000 ฟุตจากปากีสถานไปถึงจีน นี่คือเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเพื่อขับรถไปชมวิวภูเขาK2 ภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก เส้นทางจากจุดที่อยู่ที่สูงที่สุดจากถนนสายนี้ จะทำให้นักขับรถทรมานจากสภาพอากาศเบาบางเป็นระยะทางกว่า 800 ไมล์ ซึ่งแคบลงตามแม่น้ำและข้ามพื้นที่สุดแห้งแล้ง ก่อนจะปีนขึ้นไปตามทางที่คดเคี้ยวไม่มีที่สิ้นสุดของ Karakoram

.

6. Kolyma.Highway, ระหว่างประเทศรัสเซียและไซบีเรีย

image

image

ตำแหน่งที่ตั้ง: รัสเซียตะวันออกไกลและไซบีเรีย

ความอันตราย: เส้นทางยาว 1,200 ไมล์ซึ่งมีชื่อเล่นว่า "เส้นทางสายโครงกระดูก" ถูกสร้างในยุคของท่านผู้นำสตาลิน ซึ่งชื่อนี้มีที่มาจากผู้ที่ถูกกักกันในค่ายแรงงานและผู้ที่เสียชีวิตระหว่างการก่อสร้างที่ถูกฝังไว้ข้างใต้หรือใกล้ ๆ พื้นถนน ถนนเส้นนี้ตัดผ่านบริเวณที่หนาวที่สุดในโลก ในหน้าหนาวจะเป็นการขับรถบนน้ำแข็งบนแม่น้ำที่แข็งตัวแทนการใช้เรือ ซึ่งเป็นเส้นทางการขับที่อันตรายสุดขีด เนื่องจากไม่สามารถทราบได้ว่าจุดไหนที่น้ำแข็งจะแตกหักบ้าง

.

5. Canning.Stock Route,.ประเทศออสเตรเลีย

image

image

ตำแหน่งที่ตั้ง:ทะเลทรายบริเวณออสเตรเลียตะวันออก

ความอันตราย: เส้นทางยาวกว่า 1,100 ไมล์ ผ่านทะเลทรายอันกว้างใหญ่ มีการขุดบ่อน้ำมากกว่าเกือบร้อยบ่อตลอดเส้นทาง ปัจจุบันรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อที่เดินทางไปด้วยกันสามารถขับผ่านความอ้างว้างนี้ได้ด้วยการช่วยเติมเชื้อเพลิง ทะเลทรายกว้างใหญ่ที่ดูไม่มีจุดสิ้นสุดและแสงแดดที่แผดเผาในการเดินทางข้ามผ่าน ทำให้เส้นทางนี้หฤโหดถึงขีดสุด

.

4..Graciosa Trail, ประเทศบราซิล

image

image

ตำแหน่งที่ตั้ง: ภูเขาเหนือเมือง Morretes

ความอันตราย: ถนนเส้นนี้เป็นทางเก่าแก่ที่ตัดผ่านป่าฝนและถูกปกคลุมหนาทึบไปด้วยมอส ด้วยสภาพเส้นทางที่ทำจากหินกรวดตลอดเส้นทาง ให้พื้นถนนลื่นและอันตรายมาก โดยเฉพาะบริเวณทางเลี้ยว นอกจากนี้ยังมีต้นไฮเดนเยียขึ้นตามทางทำให้ทางเขียวชอุ่มด้วยดอกไม้สีฟ้า ดูสดชื่นหลอกล่อให้นักขับหลงชมธรรมชาติจนลืมไปว่าถนนเส้นนี้อันตรายถึงชีวิต

3..Trans-Sahara Highway, ทวีปแอฟริกา

image

image

ตำแหน่งที่ตั้ง: จากแอลจีเรียถึงไนจีเรีย

ความอันตราย: เส้นทางลาดยางท่ามกลางทะเลทรายเป็นระยะทางยาวกว่า 2,800 ไมล์ วิ่งข้ามผ่าน 3 ประเทศ ได้แก่ แอลจีเรีย ไนเจอร์ และไนจีเรีย เป็นเส้นทางผ่านทะเลทรายซาฮาร่า ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดบนโลก เชื้อเพลิงและน้ำไม่สามารถหาได้มากนักตลอดเส้นทางสุดโหด และพายุทรายที่บางปีก็พัดทรายกองมหึมาและถมลงบนถนน ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตหลายวันติดต่อกัน

2..The.Stilwell Road, ระหว่างประเทศอินเดียและพม่า

image

ตำแหน่งที่ตั้ง: ทางในป่าอินเดียไปถึงพม่า

ความอันตราย: ถูกสร้างขึ้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองโดยการแลกมาด้วยชีวิตนับพัน Stilwell Road (The Ledo Road) วิ่งป่ายภูเขา คดเคี้ยวไปในป่า และผ่านแม่น้ำกว่า 100 สาย ที่ไหลผ่านถนนความยาว 1,079 ไมล์ ปัจจุบันถนนเส้นนี้ถูกป่าปกคลุมรกชัฎ มีการใช้น้อยและพื้นที่ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้

1..Wilderness Road.to Selva.Blue Lodge,.ประเทศโบลิเวีย

image

ตำแหน่งที่ตั้ง: ระหว่าง Santa Ana และ the Selva Blue wilderness lodge

ความอันตราย: เส้นทาง 100 ไมล์บนป่าเขาอันวกวน เป็นทางกรวดกว้าง 20 ฟุต ที่แคบลงเพราะหญ้าที่ขึ้นปกคลุมสองข้าง และสะพานไม้เหนือแม่น้ำสายย่อยจากอเมซอน คาราวานมอเตอร์ไซค์ได้เลือกเส้นทางที่มักถูกน้ำท่วมนี้ไปยังลุ่มน้ำอเมซอนทางเหนือของโบลิเวียในปี 2002 ด้วยความโหดระดับตำนานของเส้นทางนี้ ทำให้โบลิเวียได้ตำแหน่งประเทศที่มีถนนสุดอันตรายที่สุดในโลกไปครอบครองอย่างไม่น่าภูมิใจนัก